Microsoft ประกาศการเปิดตัว GitHub Copilot Extensions ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ได้รับการออกแบบ เพื่อรวมเครื่องมือและบริการของบุคคลที่สามเข้ากับสภาพแวดล้อม GitHub Copilot โดยตรง การประกาศนี้จัดทำขึ้นในระหว่างการประชุมนักพัฒนา Build 2024 โดยเน้นถึงความมุ่งมั่นของ Microsoft ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา
เวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนาที่ได้รับการปรับปรุง
เป้าหมายหลักของ Copilot Extensions คือ เพื่อลดความจำเป็นที่นักพัฒนาจะต้องเปลี่ยนบริบทขณะทำงาน ด้วยการรวมส่วนขยายเหล่านี้ นักพัฒนาสามารถแจ้งให้แอปพลิเคชันที่รองรับดำเนินการต่างๆ ได้ เช่น สร้างไฟล์และดึงคำขอ โดยไม่ต้องออกจากสภาพแวดล้อมการเขียนโค้ด การผสานรวมนี้พร้อมใช้งานผ่าน GitHub Copilot Chat ซึ่งรองรับส่วนขยายบน GitHub.com, Visual Studio และ Visual Studio Code
หนึ่งในบริการแรก ๆ ที่จะรวมเข้ากับส่วนขยาย Copilot ได้แก่ GitHub Copilot สำหรับ Azure, Docker, LambdaTest, LaunchDarkly, McKinsey & Company, Microsoft Azure และ Microsoft Teams, MongoDB, Octopus Deploy, Pangea, Pinecone, วิทยาศาสตร์ผลิตภัณฑ์, ReadMe, Sentry และ Stripe การบูรณาการเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักพัฒนามีขั้นตอนการทำงานที่สอดคล้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น GitHub ยังระบุด้วยว่าคาดว่าจะมีพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะขยายขีดความสามารถของ Copilot Extensions ต่อไป
GitHub Copilot เปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2021 และนับตั้งแต่นั้นมาก็มีให้บริการเป็นส่วนขยายในสภาพแวดล้อมการพัฒนาแบบรวม (IDE) ต่างๆ รวมถึง Visual Studio Code, Visual Studio, Vim, Neovim, และ JetBrains IDE ในเดือนกุมภาพันธ์ GitHub ได้เผยแพร่ GitHub Copilot เวอร์ชันองค์กรให้ใช้งานได้ทั่วไป และในเดือนเมษายน บริษัทได้แสดงตัวอย่าง GitHub Copilot Workspace ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมของนักพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI
[เนื้อหาที่ฝัง]
การปรับแต่งและตลาด
องค์กรมีตัวเลือกในการสร้าง Copilot Extensions ส่วนตัวของตนเอง เพื่อให้สามารถบูรณาการที่ปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเฉพาะขององค์กรได้ นอกจากนี้ GitHub Marketplace จะเสนอส่วนขยายที่เปิดให้ผู้ใช้ทุกคน โดยเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาในการเข้าถึงเครื่องมือและบริการที่หลากหลาย
วิสัยทัศน์ของ GitHub สำหรับ Copilot Extensions ชวนให้นึกถึงวิธีที่ Slack วางตำแหน่งตัวเองเป็น ศูนย์กลางการสื่อสารในที่ทำงาน ด้วยการผสานรวมเครื่องมือและบริการที่หลากหลาย GitHub ตั้งเป้าที่จะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนา โดยผสมผสานการเข้าถึงพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนตัวและโอเพ่นซอร์สเข้ากับความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์